ข่าวมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
วันพระราชทานนามราชภัฏ
โพสต์เมื่อ  15 ก.พ. 2564 /   ผู้เขียน /  เปิดดู 1046

ม.ราชภัฏเพชรบูรณ์ จัดพิธีทำบุญใส่บาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชทานนามราชภัฏ

**********************************

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 น. ผศ.ดร.ประยูร ลิ้มสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ เป็นประธานนำข้าราชการ บุคลากร และนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ จัดพิธีพิธีทำบุญใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวันคล้ายวันพระราชทานนามราชภัฏ ประจำปี 2564 ณ หอประชุมประกายเพชร พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเปิดรับบริจาคโลหิต ด้วย

ทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “ วันราชภัฏ ” สืบเนื่องจาก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม สถาบันราชภัฏ แก่วิทยาลัยครูทั่วประเทศ และได้มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญตราพระราชลัญจกรส่วนพระองค์ เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ เป็นสิ่งที่นำความภาคภูมิใจสูงสุดมาสู่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏ ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สมควรจะเทิดพระมหากรุณาธิคุณนี้ไว้เหนือเกล้าและจงรักภักดีด้วยการตั้งปณิธานที่จะประพฤติ และปฏิบัติหน้าที่เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในการพัฒนาประเทศและบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พี่น้อง ประชาชนชาวไทย ดังนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถือว่าเป็น วันราชภัฏ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัย และถือเป็นการสถาปนามหาวิทยาลัยราชภัฏด้วยเช่นกัน “

คำว่า “ ราชภัฏ ” ให้ความหมายที่กินใจความว่า “คนของพระราชา…ข้าของแผ่นดิน” หากตีความตามความรู้สึกยิ่งกินใจและตีความได้กว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ “การถวายงานประดุจข้าราชบริพารที่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทที่ต้องถวายงานอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต และสุดจิตสุดใจ” ซึ่งการเป็นคนของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทย่อมเป็นข้าของแผ่นดินอีกด้วย เนื่องจากว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทผู้เป็นมิ่งขวัญของพวกเราชาวราชภัฏ ทรงเป็นแบบอย่างการทรงงานเพื่อบ้านเมือง และแผ่นดินอย่างที่มิเคยทรงหยุดพักแม้เพียงนิด แม้ยามที่ทรงประชวรก็ไม่เคยหยุดทรงงาน เพื่อความสุขของปวงชนชาวสยามของพระองค์นั้นเองด้วยเหตุผลเหล่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจึงได้พระราชทานพระราชลัญจกร อันเป็นเครื่องประกอบพระราชอิศริยยศ พระราชอิศริยศักดิ์ ลงมาเป็นตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ ประหนึ่งเครื่องเตือนความทรงจำว่าพวกเราชาวราชภัฏคือ “คนของพระราชา และข้าของแผ่นดิน”

เนื่องในวันราชภัฎ ในทุกๆ มหาวิทยาลัยราชภัฎทั่วประเทศ จึงได้จัดกรรมต่างๆ ขึ้นอาทิ การทำบุญตักบาตร การจัดนิทรรศการ การเสวนาทางวิชาการ และการมอบรางวัลต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีต่อการสนับสนุนอุดมการณ์ของ “ชาวราชภัฎ” หนึ่งในรอบปีมีวาระสำคัญอย่างยิ่งที่พวกเราเลือดราชภัฎจะถือโอกาสในการทำงานเพื่อสนองแนวทางพระราชดำริสืบต่อพระราชปณิธานและสืบสานพระราชประสงค์ เหมาะสมกับการเป็น “ข้ารองพระยุคลบาทยิ่ง” และอย่างให้ชาวราชภัฏทุกท่านสำนึกอยู่เสมอว่า “มีหน้าที่อุทิศตนทำงานทุกอย่าง เพื่อเป็นบทพิสูจน์ความจงรักภักดิ์ดี และเทิดทูนใต้ฝ่าละอองธุรีพระบาท และล้นเกล้าล้นกระหม่อมทุกๆ พระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ สำคัญนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ พวกเราชาวราชภัฏต้องเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเกศี ด้วยการปฏิบัติทึกภาระกิจที่ได้รับมอบหมายประหนึ่งทำถวายใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทในทุกกรณี เพราะพวกเราชาวราชภัฎคือ “คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน”

สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนาม ” ราชภัฏ ” และตราประจำมหาวิทยาลัย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเกียรติยศสูงสุดแก่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วพระราชอาณาจักร โดยนาม ” ราชภัฏ หมายความว่า เป็นคนของพระราชา”

ตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ พิจารณาจากดวงตราพระราชลัญจกรประจำพระองค์รัชกาลที่ 9 เพื่อกำหนดรูปแบบสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยราชภัฏ และได้รับพระราชทานมาเป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วพระราชอาณาจักร ซึ่งมีรายละเอียดที่สมควร นำมากล่าวถึงไว้ ณ ที่นี้คือ

ตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ

1. เป็นรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ให้กำเนิดสถาบัน

2. เป็นรูปแบบที่เป็นกลาง เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นที่ตั้ง ธรรมชาติ และความสอดคล้องกับชื่อมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ได้รับพระราชทาน

3. สีของตราประจำมหาวิทยาลัย มี 5 สี โดยมีความหมาย ดังนี้

สีน้ำเงิน แทนค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ให้กำเนิด และพระราชทานนาม “มหาวิทยาลัยราชภัฏ”

สีเขียว แทนค่าแหล่งที่ตั้งในแหล่งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม

สีทอง แทนค่าความเจริญรุ่งเรืองทางภูมิปัญญา

สีส้ม แทนค่าความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น

สีขาว แทนค่าความคิดอันบริสุทธิ์ของนักปราชญ์แห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

รายชื่อมหาวิทยาลัยราชภัฏ

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏมีทั้งหมด 38 แห่งโดยแบ่งตามการจัดงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของกลุ่ม ดังนี้

กลุ่มภาคกลาง

มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี (มรกจ./KRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม (มจษ./CRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี (มรท./TRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี (มรธ./DRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (มรน./NPRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส./BSRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (มรภ.พน./PNRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา (มรอย./ARU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี (มรภ.พบ./PBRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (มรร./RRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี (มรรพ./RBRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (มรว./VRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มรภ.สส./SSRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (มรมจ./MCRU)

กลุ่มภาคใต้

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช (มรภ.นศ./NSTRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต (มรภ./PKRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (มรย./YRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สข./SKRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส./SRU)

กลุ่มภาคเหนือ

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร (มรภ.กพ./KPRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรภ.ชร./CRRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (มรภ.ชม./CMRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (มรภ.นว./NSRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (มร.พส./PSRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ (มรภ.พช./PCRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (มรภ.ลป./LPRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ (มรอ./URU)

กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ (มชย./CPRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (มร.นม./NRRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (มรภ.บร./BRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (มรม./RMU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด (ม.รอ./RERU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (มรล./LRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ (มรภ.ศก./SSKRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร (มรสน./SNRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ (ม.รภ.สร./SRRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (มร.อด./UDRU)

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี (มรภ.อบ./UBRU)